Earth Tester คืออะไร?
Kyoritsu Digital Earth Tester
Earth Tester คือ เครื่องตรวจสอบความต้านทานของดิน เพื่อวัดค่าความต้านทาน เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าดูดในระหว่างทำงาน
เครื่อง Earth Tester นำมาเพื่อวัดกราวน์หรือวงจรต่าง ๆ ให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด หากมีการวัดค่าความต้านทานของระบบกราวน์ได้ผลออกมาไม่ได้มาตรฐาน อาจจะส่งผลให้เวลาเกิดไฟฟ้ารั่วไหลหรือส่งผลให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านไปตามสายดินได้ อาจจะก่อให้เกิดคลื่นสัญญาณออกไปรบกวน ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าเกิดปัญหาขึ้นได้ กระเเสไฟฟ้าอาจจะวิ่งลงสู่ร่างกายทำให้เกิดอัตรายจากไฟฟ้าช๊อต หรือกระเเสไฟฟ้ารั่วไหลเหล่านั้นไหลลงสู่อุปกรณ์เครื่องใช้ ทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้
ระบบลงกราวด์ของระบบไฟฟ้า เป็นข้อกำหนดทางวิศวกรรมไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือฟ้าผ่า ซึ่งอาจเกิดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า รวมถึงผู้ใช้งานเอง การมีระบบกราวน์ที่ดีนอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายแล้วยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ในแต่ละปีอาจเกิดความเสียหายเกิดขึ้นไม่น้อย สาเหตุหลัก มาจากเพลิงไหม้ที่มีสาเหตุมาจากระบบไฟที่ไม่ได้ทำการซ่อมบำรุง

NEC (National Electrical Code ) ได้ให้คำนิยามของกราวน์ไว้ว่า “การเชื่อมต่อที่นำไฟฟ้าทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจระหว่างวงจรไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ากับพื้นดินหรือกับตัวนำไฟฟ้าบางอย่างที่ช้แทนพื้นดิน” อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าทุกชนิดจำเป็นต้องมีการลงกราวน์ เนื่องจากเมื่อเกิดการรั่วไหลของกระแส กระแสที่รั่วไหลจะวิ่งไปหาจุดที่มีความต้านทานต่ำที่สุด หากไม่มีการลงกราวน์จะทำให้กระแ สลัดวงจร และหากเราไปสัมผัสกับอุปกรณ์ที่มีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าจะทำให้ถูกไฟช็อต
ตามข้อกำหนดทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ค่าความต้านทานดิน 5 โอห์ม คือมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ยอมให้มีค่าความต้านทานดิน ไม่เกิน 25 โอห์ม (เป็นค่าที่กำหนดในมาตรฐาน NEC ของสหรัฐอเมริกา)
การวัดและทดสอบค่าความต้านทานดิน
วิธีวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินนั้นมีหลักๆ 2 วิธี ขึ้นอยู่กับระบบกราวด์
วิธีที่ 1. การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก คือการตอกหลักที่เป็นแท่งโลหะขนานไปที่แท่งกราวด์ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดลูปของไฟฟ้า เครื่องทดสอบความต้านทานดินจะปล่อยแรงดันและกระแสคงที่มาค่าหนึ่งไปที่ลูปไฟฟ้านั้นแล้วคำนวณกลับออกมาเป็นค่าความต้านทาน การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก สามารถทำได้ทั้งแบบ 2 สาย, 3 สาย และ 4 สาย เนื่องจากการวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้หลัก จำเป็นที่ต้องมีการตอกแท่งหลักที่เป็นโลหะลงไปในดิน ดังนั้นการทดสอบวิธีนี้จึงเหมาะกับการใช้ออกแบบติดตั้งระบบใหม่


วิธีที่ 2. การวัดค่าความต้านทานดินแบบใช้แคล้มป์ เหมาะกับการวัดและทดสอบค่าความต้านทานดินในงานซ่อมบำรุง เมื่อใช้วิธีนี้จะเป็นการตัดขั้นตอนความยุ่งยากในการตอกหลักที่เป็นแท่งโลหะออกไป สามารถทำได้โดยง่ายเพียงแค่คล้องแคล้มป์ไปที่สายกราวด์ภายในของแคล้มป์วัดความต้านทานดิน จะทำหน้าที่ตรวจจับการไหลของกระแสไฟฟ้าดังกล่าวและเครื่องจะคำนวณเป็นค่าความต้านทานดินของระบบกราวด์นั้น พร้อมแสดงผลที่หน้าจอ แต่ข้อจำกัดของวิธีการวัดแบบนี้คือ ระบบกราวด์ที่ทำการทดสอบจะต้องเป็นระบบกราวด์แบบหลายจุด (มีกราวด์ลูป) ถึงจะทำการทดสอบได้
